ถังหูลู่ (糖葫芦) เป็นขนมหวานจีนโบราณที่มีประวัติยาวนานและยังคงเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน ความอร่อยของถังหูลู่มาจากการเคลือบผลไม้สดด้วยน้ำตาลกรอบหวาน ซึ่งสร้างความสมดุลระหว่างความหวานและความเปรี้ยวได้อย่างลงตัว นอกจากจะเป็นขนมที่ทำง่ายและเหมาะสำหรับทุกวัยแล้ว ถังหูลู่ยังเป็นสัญลักษณ์ของความสุขและความรุ่งเรืองในวัฒนธรรมจีน ในบทความนี้ เราจะมาทำความรู้จักกับถังหูลู่ รวมถึงวิธีทำที่คุณสามารถลองทำได้ที่บ้าน เพื่อสัมผัสกับรสชาติและความกรอบอร่อยของขนมหวานชนิดนี้ค่ะ
หัวข้อ
ประวัติของถังหูลู่
ถังหูลู่ (糖葫芦) หรือที่บางครั้งเรียกว่า “ไอศกรีมแท่งของจีน” เป็นขนมหวานโบราณที่มีประวัติยาวนานกว่า 800 ปี ถังหูลู่มีต้นกำเนิดในราชวงศ์ซ่งเหนือ (960-1127) ในสมัยนั้น เจ้าหญิงของราชวงศ์ป่วยหนัก ไม่มีอะไรสามารถรักษาได้ จักรพรรดิได้เชิญหมอชื่อดังมาช่วยรักษา หมอคนนี้ได้แนะนำให้เจ้าหญิงกินผลไม้แช่ในน้ำตาลก่อนมื้ออาหารแต่ละมื้อ เจ้าหญิงจึงหายจากอาการป่วยอย่างน่าอัศจรรย์
ตั้งแต่นั้นมา ถังหูลู่กลายเป็นขนมที่นิยมในหมู่ชาวจีนและได้แพร่กระจายไปยังภูมิภาคต่างๆ ของจีน รวมถึงประเทศอื่นๆ ในเอเชียด้วย ความเป็นเอกลักษณ์ของถังหูลู่คือการใช้ผลไม้ที่มีความสดและเคลือบด้วยน้ำตาลที่กรอบหวาน ทำให้เกิดความสมดุลระหว่างความหวานและความเปรี้ยว
ส่วนผสมและวิธีทำถังหูลู่
ส่วนผสม
- น้ำตาลทราย 400 กรัม
- น้ำเปล่า 100 กรัม
- แบะแซ 80 กรัม
- ผลไม้สด (ลูกพุทรา สตรอเบอร์รี่ หรือองุ่น)
- ไม้เสียบสำหรับผลไม้
วิธีทำถังหูลู่
- การเตรียมผลไม้
- ล้างผลไม้ให้สะอาดและปล่อยให้แห้งสนิท หากใช้ผลไม้ที่มีเมล็ดใหญ่ เช่น พุทรา ควรนำเมล็ดออกก่อน
- เสียบผลไม้ลงบนไม้เสียบให้แน่นและเรียงกันให้สวยงาม
- การทำน้ำเชื่อมเคลือบ
- ใส่น้ำตาลทราย น้ำเปล่า และแบะแซลงในหม้อ นำไปตั้งไฟกลาง
- ต้มส่วนผสมให้ได้อุณหภูมิ 145-150 องศาเซลเซียส โดยใช้เทอร์โมมิเตอร์วัดอุณหภูมิ
- การเคลือบผลไม้
- เมื่อได้น้ำเชื่อมที่อุณหภูมิ 145-150 องศาเซลเซียส ให้นำผลไม้ที่เตรียมไว้มาจุ่มในน้ำเชื่อม
- หมุนไม้เสียบเพื่อให้น้ำเชื่อมเคลือบผลไม้ทั่วทั้งไม้
- การทำให้กรอบ
- นำผลไม้ที่เคลือบน้ำเชื่อมไปจุ่มในน้ำเย็นจัดเพื่อให้น้ำเชื่อมแข็งตัวและกรอบยิ่งขึ้น
- วางไม้เสียบที่เคลือบเสร็จแล้วบนถาดรองที่ปูด้วยกระดาษไขเพื่อให้เย็นตัวเต็มที่
เคล็ดลับการทำถังหูลู่ให้อร่อย
- ใช้น้ำเย็นจัดในการจุ่มผลไม้ที่เคลือบน้ำเชื่อม เพื่อให้น้ำตาลแข็งตัวและกรอบมากขึ้น หากน้ำไม่เย็นพอ น้ำเชื่อมจะไม่กรอบและทำให้เหนียว
- ตรวจสอบอุณหภูมิของน้ำเชื่อมอย่างระมัดระวัง เพื่อให้ได้ความกรอบที่เหมาะสม
- เลือกผลไม้สดและมีคุณภาพดี เพื่อให้ได้รสชาติที่ดีที่สุด
ความสำคัญของถังหูลู่ในวัฒนธรรมจีน
ถังหูลู่ไม่เพียงแต่เป็นขนมหวานที่อร่อย แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมและประเพณีจีน โดยเฉพาะในเทศกาลต่างๆ เช่น เทศกาลตรุษจีน เทศกาลโคมไฟ และงานแฟร์ต่างๆ คุณจะพบถังหูลู่ในตลาดกลางคืนและแผงขายอาหารริมทาง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความสุขและความรุ่งเรือง
ถังหูลู่เป็นขนมที่สะท้อนถึงความเรียบง่ายแต่เต็มไปด้วยความอร่อย ความกรอบหวานของน้ำตาลที่เคลือบผลไม้สด ทำให้ขนมชนิดนี้คงความนิยมมาได้ยาวนาน หากคุณยังไม่เคยลองถังหูลู่ ลองทำตามสูตรนี้ที่บ้าน แล้วคุณจะพบกับความอร่อยที่ไม่ซ้ำใครและสนุกกับการทำขนมโบราณของจีนอย่างแท้จริงค่ะ
คำถามที่พบบ่อย
ถังหูลู่ใช้ผลไม้ชนิดไหนได้บ้าง?
ถังหูลู่สามารถใช้ผลไม้ได้หลากหลายชนิด โดยผลไม้ที่นิยมใช้ได้แก่ ลูกพุทรา สตรอเบอร์รี่ องุ่น และแอปเปิ้ล ผลไม้ที่เลือกใช้ควรมีรสชาติเปรี้ยวหวานและมีความแข็งพอที่จะทนต่อการเคลือบด้วยน้ำเชื่อมร้อน
ทำอย่างไรให้น้ำตาลเคลือบถังหูลู่กรอบและไม่เหนียว?
การทำให้น้ำตาลเคลือบถังหูลู่กรอบต้องควบคุมอุณหภูมิของน้ำเชื่อมให้อยู่ที่ 145-150 องศาเซลเซียส เมื่อเคลือบผลไม้แล้วควรจุ่มผลไม้ในน้ำเย็นจัดทันที เพื่อให้น้ำเชื่อมแข็งตัวและกรอบ หากน้ำเชื่อมไม่ถึงอุณหภูมิที่กำหนดหรือน้ำเย็นไม่พอ น้ำเชื่อมจะไม่กรอบและทำให้เหนียว
เก็บรักษาถังหูลู่อย่างไรให้คงความกรอบ?
ถังหูลู่ควรรับประทานทันทีหลังทำเสร็จเพื่อคงความกรอบ แต่หากต้องการเก็บรักษา ควรเก็บในภาชนะที่ปิดสนิทและแห้ง ที่อุณหภูมิห้อง หลีกเลี่ยงการเก็บในตู้เย็น เนื่องจากความชื้นจะทำให้น้ำตาลเคลือบเหนียวและไม่กรอบ
ติดต่อเรา
- Faceboook : Fooded.co
- Instagram : Fooded.co
- Tiktok : Fooded.co
- Youtube : Fooded.co
- LINE : @fooded
- E-mail :
- เบอร์โทร :
- 092 953 9355
- 062 559 3555
- เว็บไซต์ : fooded.co
- แผนที่ :