fooded.co
homemade-whole-grain-bread-isolated-white-background (Web H)
Fooded.co

ซาวร์โดว์ (Sourdough) คืออะไร?

ซาวร์โดว์ (Sourdough) คืออะไร?

ซาวร์โดว์ (Sourdough) เป็นขนมปังที่มีรากฐานการทำมาจากการหมักธรรมชาติ โดยใช้ยีสต์และแบคทีเรียที่มีอยู่ในธรรมชาติในการทำให้ขนมปังขึ้นฟู แตกต่างจากขนมปังทั่วไปที่ใช้ยีสต์เชิงพาณิชย์ ซาวร์โดว์จึงมีรสชาติและเนื้อสัมผัสที่เป็นเอกลักษณ์ พร้อมด้วยประโยชน์ต่อสุขภาพที่หลากหลาย ทั้งในเรื่องการย่อยง่าย ลดปริมาณกลูเตน และเพิ่มสารอาหารที่สำคัญ

ซาวร์โดว์ (Sourdough) คืออะไร?

ซาวร์โดว์ (Sourdough) คืออะไร?

ซาวร์โดว์ (Sourdough) คือ ขนมปังที่ทำจากการหมักธรรมชาติ ซึ่งมีรากฐานมาจากการใช้แบคทีเรียและยีสต์ที่มีอยู่ในธรรมชาติในการทำให้ขนมปังขึ้นฟู แตกต่างจากขนมปังที่ใช้ยีสต์เชิงพาณิชย์ซึ่งเป็นการเติมยีสต์โดยตรง ซาวร์โดว์จึงเป็นขนมปังที่มีเอกลักษณ์ทั้งในเรื่องรสชาติและเนื้อสัมผัสที่แตกต่างจากขนมปังทั่วไป

ความพิเศษของขนมปังซาวร์โดว์

ตามปกติ ยีสต์ที่ใช้ในการทำขนมปังส่วนใหญ่ (Baker’s Yeast) มักเป็นสายพันธุ์ที่ผ่านการคัดเลือกและตรวจสอบคุณภาพมาแล้ว เช่น ยีสต์สายพันธุ์ Saccharomyces cerevisiae อย่างไรก็ตาม การทำขนมปังซาวร์โดว์จะใช้หัวเชื้อที่เป็นยีสต์ธรรมชาติซึ่งพบได้ทั่วไปในสิ่งแวดล้อม แม้กระทั่งในอากาศ

กระบวนการทำหัวเชื้อซาวร์โดว์เริ่มต้นด้วยการผสมแป้งและน้ำเข้าด้วยกัน จากนั้นบ่มประมาณหนึ่งสัปดาห์หรือมากกว่านั้น ในระหว่างนี้จะต้องตักแป้งบางส่วนที่ยีสต์ใช้แล้วออก และเติมแป้งใหม่เข้าไปเพื่อเป็นอาหารให้ยีสต์ที่เพิ่มจำนวนขึ้น บางสูตรอาจมีการนำส่วนผสมอื่นมาหมักเป็นหัวเชื้อแทนแป้ง เช่น น้ำลูกเกดหรือน้ำชา

การทำเช่นนี้ทำให้ชนิดของยีสต์ในหัวเชื้ออาจมีมากกว่าหนึ่งชนิด และมีสายพันธุ์ที่แตกต่างจากยีสต์ที่ขายทั่วไป เช่น ขนมปังซาวร์โดว์บางประเภทมีการพบยีสต์สายพันธุ์ Saccharomyces unisporus ซึ่งเป็นสายพันธุ์เดียวกับที่ใช้ในการหมักนมเปรี้ยวแบบตะวันออกกลางที่เรียกว่า เคเฟอร์ (Kefir)

ส่วนประกอบของซาวร์โดว์

  1. แป้ง : ส่วนประกอบหลักซึ่งสามารถใช้แป้งสาลี, แป้งไรย์, หรือแป้งจากธัญพืชอื่นๆ
  2. น้ำ : ใช้เพื่อทำให้แป้งและยีสต์ในธรรมชาติรวมตัวกัน
  3. เกลือ : เพื่อเพิ่มรสชาติและช่วยในการควบคุมการเจริญเติบโตของยีสต์และแบคทีเรีย
ซาวร์โดว์ (Sourdough) คืออะไร?

กระบวนการทำซาวร์โดว์

  1. การทำสตาร์ทเตอร์ (Starter) : เป็นการสร้างยีสต์และแบคทีเรียธรรมชาติจากการผสมแป้งและน้ำให้เกิดการหมัก โดยทั่วไปจะใช้เวลา 5-7 วันในการพัฒนาสตาร์ทเตอร์
  2. การเลี้ยงสตาร์ทเตอร์ : หลังจากได้สตาร์ทเตอร์แล้ว ต้องมีการเลี้ยงดูโดยการเพิ่มแป้งและน้ำอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ยีสต์และแบคทีเรียเจริญเติบโตอย่างเหมาะสม
  3. การผสมแป้งซาวร์โดว์ : เมื่อสตาร์ทเตอร์พร้อมใช้งาน จะนำมาผสมกับแป้ง น้ำ และเกลือเพื่อทำแป้งขนมปัง
  4. การขึ้นฟู (Fermentation) : หลังจากผสมแป้งแล้ว ต้องปล่อยให้แป้งขึ้นฟูเป็นระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งระยะเวลานี้จะขึ้นอยู่กับอุณหภูมิและความแข็งของแป้งที่ใช้
  5. การอบ (Baking) : หลังจากแป้งขึ้นฟูแล้ว จะนำไปอบในเตาอบที่มีอุณหภูมิสูง เพื่อให้ได้ขนมปังซาวร์โดว์ที่มีเปลือกกรอบและเนื้อในนุ่ม

ประโยชน์ของซาวร์โดว์

  1. ย่อยง่าย : การหมักธรรมชาติช่วยให้แป้งแตกตัวทำให้ย่อยง่ายขึ้น
  2. รสชาติและกลิ่นหอม : ขนมปังซาวร์โดว์มีรสชาติเปรี้ยวนิดๆ และกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์
  3. โภชนาการที่ดี : การหมักช่วยเพิ่มสารอาหารและวิตามินในขนมปัง เช่น วิตามินบีและกรดโฟลิก
ซาวร์โดว์ (Sourdough) คืออะไร?

เทคนิคและเคล็ดลับในการทำซาวร์โดว์

  1. การเลือกแป้ง : ใช้แป้งที่ไม่ผ่านการฟอกขาวและไม่ผ่านการประดิษฐ์สารเคมี เพื่อรักษาคุณภาพของยีสต์ธรรมชาติ
  2. การควบคุมอุณหภูมิ : การหมักในอุณหภูมิที่เหมาะสมจะช่วยให้ขนมปังมีรสชาติที่ดีขึ้น
  3. การปรับเวลาในการขึ้นฟู : ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิและความชื้น การทดลองและปรับเปลี่ยนเวลาจะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

สรุป

ซาวร์โดว์ (Sourdough) คือขนมปังที่ทำจากการหมักธรรมชาติ โดยใช้ยีสต์และแบคทีเรียจากธรรมชาติ กระบวนการทำซาวร์โดว์ประกอบด้วยการทำสตาร์ทเตอร์ การเลี้ยงดูสตาร์ทเตอร์ การผสมแป้ง การขึ้นฟู และการอบ การทำซาวร์โดว์ต้องใช้เวลาและความเข้าใจในกระบวนการ แต่ผลลัพธ์ที่ได้คือขนมปังที่มีรสชาติและเนื้อสัมผัสที่เป็นเอกลักษณ์ พร้อมด้วยประโยชน์ต่อสุขภาพ ทั้งการย่อยง่าย ลดปริมาณกลูเตน และเพิ่มสารอาหารที่สำคัญ ซาวร์โดว์ไม่เพียงแต่เป็นขนมปังที่มีประวัติยาวนาน แต่ยังเป็นตัวแทนของการทำอาหารแบบดั้งเดิมที่คงไว้ซึ่งคุณค่าทางโภชนาการและรสชาติที่โดดเด่น

ซาวร์โดว์ (Sourdough) คืออะไร?

คำถามที่พบบ่อย

การเริ่มต้นทำสตาร์ทเตอร์ยากไหม และต้องใช้เวลานานเท่าไร?

การเริ่มต้นทำสตาร์ทเตอร์ไม่ยากแต่ต้องมีความอดทนและความเข้าใจในกระบวนการ การทำสตาร์ทเตอร์ต้องใช้เวลา 5-7 วัน โดยเริ่มจากการผสมแป้งและน้ำให้เกิดการหมัก และต้องเพิ่มแป้งและน้ำใหม่ในทุกวันเพื่อให้ยีสต์และแบคทีเรียเจริญเติบโตอย่างเหมาะสม สตาร์ทเตอร์ที่พร้อมใช้งานจะมีกลิ่นเปรี้ยวๆ และมีฟองอากาศเล็กๆ ปรากฏอยู่

ทำไมขนมปังซาวร์โดว์ของฉันไม่ขึ้นฟูเหมือนที่คาดหวัง?

สาเหตุที่ขนมปังซาวโดว์ไม่ขึ้นฟูมีหลายประการ เช่น

  • สตาร์ทเตอร์ไม่แข็งแรงพอ : สตาร์ทเตอร์อาจยังไม่เจริญเติบโตพอ ต้องมีการเลี้ยงดูให้แข็งแรงก่อนใช้งาน
  • อุณหภูมิไม่เหมาะสม : การหมักแป้งในอุณหภูมิที่เย็นเกินไปหรือร้อนเกินไปจะทำให้ยีสต์ทำงานไม่เต็มที่ ควรหมักแป้งในอุณหภูมิประมาณ 24-28 องศาเซลเซียส
  • ระยะเวลาการหมักไม่เพียงพอ : การหมักแป้งต้องใช้เวลาอย่างน้อย 4-6 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิและความชื้น

ซาวร์โดว์มีประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างไร?

ซาวร์โดว์มีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายประการ เช่น

  • ย่อยง่าย : การหมักธรรมชาติช่วยให้โปรตีนและคาร์โบไฮเดรตแตกตัวทำให้ย่อยง่ายขึ้น ลดปัญหาท้องอืด
  • ลดปริมาณกลูเตน : การหมักซาวร์โดว์สามารถลดปริมาณกลูเตนในแป้งได้ ทำให้เหมาะสำหรับผู้ที่แพ้กลูเตนในระดับเล็กน้อย
  • เพิ่มสารอาหาร: การหมักช่วยเพิ่มสารอาหารและวิตามิน เช่น วิตามินบีและกรดโฟลิก
  • ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด : ซาวร์โดว์มีค่าดัชนีน้ำตาลที่ต่ำกว่าขนมปังทั่วไป ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดไม่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วหลังรับประทาน

ติดต่อเรา

บทความล่าสุด

homemade-whole-grain-bread-isolated-white-background (Web H)
ซาวร์โดว์ (Sourdough) เป็นขนมปังที่มีรากฐานการทำมาจากการหมักธรรมชาติ โดยใช้ยีสต์และแบคทีเรียที่มีอยู...
คอร์สเรียนเบเกอรี่ (Bakery Course)
การเปิดร้านเบเกอรี่เป็นความฝันของหลายคนที่หลงใหลในศิลปะการทำขนมปัง ขนมเค้ก และขนมอบต่างๆ การมีร้านเบ...
เบเกอรี่ ขนมอบ (Bakery)
การทำขนมปัง Sourdough ที่บ้านเป็นการผสมผสานระหว่างศิลปะและวิทยาศาสตร์ที่ต้องใช้ความชำนาญและอุปกรณ์ที...
เบเกอรี่ ขนมอบ (Bakery)
ขนมปัง Sourdough และชีสเป็นการจับคู่ที่ลงตัวอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นการรับประทานเป็นอาหารเช้า อาหารว่า...
เบเกอรี่ ขนมอบ (Bakery)
ขนมปัง Sourdough เป็นขนมปังที่มีรสชาติและเนื้อสัมผัสเฉพาะตัว ด้วยกระบวนการหมักยีสต์ธรรมชาติที่ยาวนาน...
Fooded.co แหล่งเรียนรู้ด้านอาหารและเครื่องมือ
ขนมจีบหมูกุ้งเป็นเมนูติ่มซำยอดนิยมที่หลายคนชื่นชอบ ด้วยรสชาติที่กลมกล่อมและเนื้อสัมผัสที่นุ่มนวล ทำใ...